OnePlus Ace 3 มากับตัวเครื่องดีไซน์ที่เหมือนกับ OnePlus 12 และรุ่นก่อน ๆ เกือบ 100% โดยเฟรมตัวเครื่องจะใช้วัสดุอะลูมิเนียมเกรดการบินขัดด้าน พ่วงด้วยฝาหลังวัสดุกระจกที่มีทั้งแบบเงางาม และแบบด้าน มีปุ่ม Alert Slider ที่เป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์เหมือนเดิม
จอแสดงผลในรุ่นนี้มาในดีไซน์แบบโค้ง 3D ขนาด 6.78 นิ้ว ใช้พาเนล LTPO OLED X1 เทคโนโลยีล้ำที่สุดของ BOE ความละเอียดสูง 1.5K (2780×1264 พิกเซล) ปรับรีเฟรชเรตแบบอัตโนมัติ 1 – 120Hz มาตรฐานสีเที่ยงตรงระดับ DisplayMate A+ รองรับการแสดงผล Dolby Vision, HDR10+, HDR Vivid และ ZREAL
นอกจากนี้ตัวจอยังสว่างสุด ๆ ถึง 4,500nits ได้รับมาตรฐานถนอมสายตาจาก TUV Rheinland Smart Eye Protection 3.0 แถมยังรองรับการสัมผัสถึงแม้ว่านิ้วมือจะเปียกน้ำ ครอบทับด้วยกระจกทนรอย Gorilla Glass Victus 2
ด้านการประมวลผลในรุ่นนี้ใช้ชิปเรือธงอย่าง Snapdragon 8 Gen 2 ประกบคู่มากับ RAM LPDDR5X + ROM UFS 4.0 ขนาดสูงสุด 16GB + 1TB มีระบบระบายความร้อน VC Cooling Chamber ขนาด 9,140 ตารางมิลลิเมตร การันตีรัน Genshin Impact ที่ความละเอียด 810p ได้นิ่ง ๆ ที่เฟรมเรตเฉลี่ย 59.4FPS ตลอดการเล่น 1 ชั่วโมง
ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับมอเตอร์การสั่งแบบ X-axis vibration และลำโพงคู่สเตอริโอ Dolby Atmos เพื่อช่วยให้การเล่นเกม ดูหนัง หรือฟังเพลงได้เต็มอิ่มมากขึ้น พ่วงด้วยแบตเตอรี่ 5,500 mAH รองรับชาร์จไว SUPERVOOC 100W ชาร์จจาก 1 – 100% ใช้เวลาเพียง 27 นาทีเท่านั้น
ส่วนการถ่ายภาพให้กล้องหลังมา 3 ตัว ประกอบไปด้วย กล้องหลัก IMX890 50MP มีกันสั่น OIS + กล้อง Ultrawide มุมกว้าง 112 องศา 8MP + กล้อง Macro ระยะ 4 ซม. 2MP รองรับการซูมแบบ Digital ที่ 20 เท่า ส่วนกล้องเซลฟี่ให้มาที่ความละเอียด 16MP รองรับการแสดงผลภาพแบบ ProXDR
OnePlus Ace 3 เปิดให้สั่งจองแล้วที่ประเทศจีน โดยจะมีตัวเครื่องให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีทองแดง MingSha Gold, สีฟ้า Moon Sea Blue ที่ใช้เป็นวัสดุแบบเงางาม และสีดำ Star Black ที่ใช้เป็นกระจกด้าน ส่วนราคาและการวางจำหน่ายเปิดมาดังนี้